Monday, August 30, 2010

กองทัพเรือ สนับสนุนงานเทศน์มหาชาติทำนองหลวง

กองทัพเรือ สนับสนุนวัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร ในการจัดงานเทศน์มหาชาติทำนองหลวง ระหว่างวันที่ ๔-๖ กันยายน ๒๕๕๓ ณ บริเวณวัดอรุณราชวราราม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีพิธีที่สำคัญ ได้แก่ พิธีเทศน์มหาชาติทำนองหลวง เฉลิมพระเกียรติฯ พิธีเจริญพระพุทธมนต์โพชฌงคปริตร และพิธีอัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์คาถาพัน (ทางเรือ) จากวัดอรุณราชวราราม เพื่อทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ ตึกศิริราช ๑๐๐ ปี โรงพยาบาลศิริราช
งานเทศน์มหาชาติ ทำนองหลวง นั้น กองทัพเรือ เป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์มหาชาติ กัณฑ์ทศพร ในวันที่ ๔ กันยายน ๒๕๕๓ เวลา ๐๙๐๐-๑๑๐๐ ณ บริเวณมณฑลพิธีวัดอรุณราชวราราม จัดเรือและกำลังพลสนับสนุนพิธีอัญเชิญน้ำพระพุทธมนต์คาถาพัน (ทางเรือ) ในวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๓

ข้อมูล กกพร.ฯ
๓๑ ส.ค.๕๓

พิธีส่งหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดไปปฏิบัติงานในอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย

กองทัพเรือ จะส่งหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดไปปฏิบัติงานในอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลีย เพื่อเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเล ระหว่างกองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและต่างประเทศให้เกิดเป็นรูปธรรม โดยจัดกำลังทางเรือ อากาศยานและส่วนสนับสนุน ประกอบกำลังเป็นหมู่เรือปราบปรามโจรสลัดไปปฏิบัติภารกิจกับกำลังผสมทางทะเล เพื่อไปร่วมปราบปรามการกระทำโจรสลัด ระหว่างช่วงเดือนกันยายน-เดือนธันวาคมประมาณ ๙๔ วัน โดยมีพิธีส่งหมู่เรือในวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๓ ณ ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ
กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับกองทัพเรือไทยได้เชิญกองทัพเรือไทยเข้าร่วมปฏิบัติภารกิจกับกองกำลังผสมทางทะเลบริเวณพื้นที่ในอ่าวเอเดนและชายฝั่งโซมาเลียที่มีเหตุการณ์โจรสลัดบุกยึดเรือ ทำให้กระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลโดยรวม และยังมีเรือไทยเป็นจำนวนมากที่ใช้เส้นทางดังกล่าวประกอบกิจการทางทะเล ทำให้มีความเสี่ยงต่อการถูกปล้นและยึดเรือในอนาคต การจัดหมู่เรือของกองทัพเรือไทยเข้าร่วมในครั้งนี้จึงเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเล และเป็นการส่งเสริมบทบาทของกองทัพเรือไทยในเวทีสากล

ข้อมูล ยก.ทร.
๓๑ ส.ค.๕๓

งาน ๗๐ ปีของการสถาปนาสำนักงานอาสากาชาดสภากาชาดไทย

ในวันนี้ (๓๑ ส.ค.๕๓) เวลา ๑๐๓๐ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จะเสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงาน ๗๐ ปี ของการสถาปนา สำนักงานอาสากาชาด สภากาชาดไทย ณ ห้องประชุมมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก
ในช่วงเช้า สภากาชาดไทย จัดการบรรยายพิเศษ เรื่อง “อาสา...ก้าวหน้า ก้าวไกล” โดยศาสตราภิชาน นายแพทย์พิชิต สุวรรณประกร รองประธานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย และเวลา ๑๐๓๐ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดงานและประทานโล่เชิดชูเกียรติอาสากาชาด ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับกิจการต่างๆ ของสภากาชาดไทย จำนวน ๕๕ ราย ภายในงานมีการจัดนิทรรศการโครงการต่างๆ ที่พัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส และการปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือสังคมตลอด ระยะเวลา ๗๐ ปี ของสำนักงานอาสากาชาด และมีการให้บริการตรวจสุขภาพโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การทำนายโชคชะตาราศี และการจำหน่ายสินค้าราคาถูก
ผู้ที่สนใจงานอาสาสมัคร สามารถสมัครเป็นอาสากาชาดได้ภายในงานและผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนึกงานอาสากาชาด สภากาชาดไทย หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๒๕๖๕ ๔๔๒๗ -๙ และ ๐ ๒๒๕๖ ๔๒๙๐
ข้อมูล นสพ.แนวหน้า
๓๑ ส.ค.๕๓

กรมพลศึกษา เชิญร่วมงาน Sport Science 2010

สำนักวิทยาศาสตร์การกีฬา กรมพลศึกษา จัดงาน Sport Science 2010 ในวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๓ ณ อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
ภายในงานมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วย การทดสอบสมรรถภาพทางกาย, วัดความแข็งแรงของร่างกาย, โภชนาการการกีฬาต่างๆ แนะนำสูตรอาหารของผู้สูงอายุ, คลินิกกีฬาให้คำปรึกษาอาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา, การจัดแสดงผลงานเครือข่ายต้นแบบวิทยาศาสตร์การกีฬา, การประกวดสิ่งประดิษฐ์นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ประจำปี ๒๕๕๓ นิทรรศการมัลติมีเดียด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา การรณรงค์การออกกำลังกาย และกิจกรรมนันทนาการต่างๆ
ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๒๑๙ ๒๖๑๗

ข้อมูล นสพ.สยามรัฐ
๓๐ ส.ค.๕๓

กำหนดประกอบพิธีประดับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพกและรับประกาศนียบัตรฯ ประจำปี ๒๕๕๓

กรมสรรพาวุธทหารเรือ กำหนดประกอบพิธีประดับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพกและรับประกาศนียบัตรกำกับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพก ประจำปี ๒๕๕๓ ในวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๓ เวลา ๐๙๓๐ ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น ๒ นันทอุทยานสโมสร โดยมี พลเรือตรี ณรงค์พล ณ บางช้าง เจ้ากรมสรรพาวุธทหารเรือ เป็นประธานฯ
การยิงเป้าปืนพกประจำปี ๒๕๕๓ ผลการยิงปรากฏว่ามีผู้ผ่านเกณฑ์และมีสิทธิประดับเครื่องหมายความสามารถยิงเป้าปืนพก (ฉบับที่ ๒) พุทธศักราช ๒๕๕๒ จำนวน ๓๙๘ นาย ในจำนวนนี้มีผู้ทำคะแนนสูงสุดได้รับการจารึกชื่อลงบนโล่เกียรติยศ คือ เรือโท พฤพนธ์ ทองสุริเดช สังกัด ฐานทัพเรือสัตหีบ โดยมีนักแม่นปืนชั้นยอดเยี่ยม (ชั้น ๑) จำนวน ๔ นาย คือ นาวาโท สรณรรถ สนธิไทย สังกัด กองเรือยุทธการ , นาวาตรี หญิง นนทพรรณ มานักฆ้อง สังกัด กรมแพทย์ทหารเรือ , เรือเอก อภิลพธ์ อมรพัฒน์ สังกัด กองเรือยุทธการ และพันจ่าเอก ไพโรจน์ ใจผ่อง สังกัด หน่วยบัญชาการนวิกโยธิน นักแม่นปืนชั้นเชี่ยวชาญ (ชั้น ๒) จำนวน ๕๐ นาย , นักแม่นปืนชั้นสูง (ชั้น ๓) จำนวน ๑๓๔ นาย, นักแม่นปืน (ชั้น ๔) จำนวน ๒๐๙ นาย
สำหรับรายชื่อผู้ที่ผ่านเกณฑ์และมีสิทธิประดับเครื่องหมายความสามารถฯ สามารถดูได้ที่เว็บไซต์ www.navy.mi.th/ordn

ข้อมูล สพ.ทร.
๓๐ ส.ค.๕๓

วันเรือดำน้ำประจำปี ๒๕๕๓

กองทัพเรือ กำหนดจัดวันเรือดำน้ำ ประจำปี ๒๕๕๓ ในวันศุกร์ที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๓ ณ ห้องชมวัง อาคารราชนาวิกสภา
กองทัพเรือ ได้จัดหาเรือดำน้ำเครื่องยนต์ดีเซล จำนวน ๔ ลำ ณ อู่บริษัท มิตซูบิชิ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย ร.ล.มัจฉาณุ ร.ล.วิรุณ ร.ล.สินสมุทร และ ร.ล.พลายชุมพล และในวันที่ ๔ กันยายน ๒๔๘๐ ร.ล.มัจฉานุ กับ ร.ล.วิรุณ สร้างเสร็จสมบูรณ์ บริษัท มิตซูบิชิ ได้ส่งมอบเรือดำน้ำให้กับกองทัพเรือไทย นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยมีเรือดำน้ำเข้าประจำการ จึงได้ถือเอาวันที่ ๔ กันยายนของทุกปี เป็นวันที่ระลึกเรือดำน้ำ
เรือดำน้ำทั้ง ๔ ลำ ได้ปฏิบัติภารกิจอย่างเข้มแข็ง โดยได้ฝึกทางยุทธวิธีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งได้ร่วมปฏิบัติงานระหว่างสงครามด้วยโดยระหว่างสงครามอินโดจีนในการยุทธที่เกาะช้าง หลังจากเรือหลวงธนบุรี และเรือตอร์ปิโดถูกเรือฝรั่งเศสยิงจมแล้ว เรือดำน้ำทั้ง ๔ ลำ ได้ไปทำการลาดตระเวนเป็นแนวอยู่บริเวณฐานทัพเรือเรียม (กัมพูชา) ใช้เวลาอยู่ใต้นำทั้งสิ้นลำละ ๑๒ ชั่วโมง ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ร.ล.พลายชุมพลและ ร.ล.สินสมุทร ได้ไปปฏิบัติภารกิจกวาดทุ่นระเบิดแม่เหล็กบริเวณเกาะสีชัง เพื่อให้เส้นทางเดินเรือปลอดภัย รวมทั้งเมื่อโรงไฟฟ้าสามเสนและวัดเลียบที่จ่ายกระแสไฟฟ้าประจำวันถูกระเบิด กองทัพเรือได้ส่ง ร.ล.มัจฉานุ และ ร.ล.วิรุณ ไปเทียบท่าจ่ายกระแสไฟฟ้าเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งขณะจ่ายกระแสไฟฟ้าก็ต้องคอยหลบภัยทางอากาศตลอดเวลา
จนในวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๔๙๔ เรือดำน้ำทั้งหมดได้ปลดระวางประจำการ รวมเวลารับใช้กองทัพเรือด้วยความกล้าหาญมาเป็นระยะเวลา ๑๒ ปีเศษ แม้ปัจจุบันกองทัพเรือจะไม่มีเรือดำน้ำประจำการ แต่กองทัพเรือยังส่งเสริมกำลังพลให้ไปฝึกอบรมดูงาน เพื่อเพิ่มพูนความรู้และสามารถติดตามวิทยาการที่ก้าวหน้าได้ทัน และในวันที่ ๔ กันยายนของทุกปี จะจัดงานวันเรือดำน้ำ เพื่อระลึกถึง และเชิดชูเกียรติแก่อดีตนักดำเรือดำน้ำ และอุทิศส่วนกุศลให้แก่อดีตนักดำเรือดำน้ำที่ล่วงลับไปแล้ว
ข้อมูล กปจ.ฯ
๓๐ ส.ค.๕๓